โรคที่เกี่ยวข้องกับพันธุกรรมและอาหาร ในสุนัข
เมื่อสัตวแพทย์พบสุนัขที่แสดงอาการป่วยอย่างรุนแรง อาจมองข้าม...
เผยแพร่แล้ว 20/11/2021
สามารถอ่านได้ใน Français , Deutsch , Italiano , Español และ English
อาหารกึ่งแห้งและอาหารเม็ดสำหรับสัตว์ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบันแต่อาหารเปียกสำหรับสัตว์ก็มีลักษณะเฉพาะที่เป็นข้อได้เปรียบในบางสถานการณ์ สัตวแพทย์ Megan Shepherd และ Jess Benson จะมาสรุปจุดเด่นของอาหารเปียกและให้ความเห็นว่าควรเลือกอาหารอย่างไรให้เหมาะสมกับสภาพของสุนัขและแมว (แปลโดย น.สพ. พีระ มานิตยกุล)
อาหารเปียกอาจมีข้อได้เปรียบมากกว่าอาหารกึ่งแห้งและอาหารเม็ดในบางสถานการณ์
การให้อาหารเปียกจำเป็นต้องมีการประเมินสุขภาพของสัตว์เลี้ยง ประวัติการกินอาหาร และงบของเจ้าของสัตว์เลี้ยงก่อน ทั้งยังต้องซื้ออาหารจากผู้ผลิตที่ไว้ใจได้
สัตว์เลี้ยงส่วนมากมักได้รับอาหารสำเร็จรูปที่มีขายในท้องตลาด มีสัตว์เลี้ยงปริมาณไม่มากนักที่กินอาหารเปียกเป็นหลัก 1 โดยที่แมวมักจะกินอาหารเปียกมากกว่าสุนัข 2 เจ้าของสัตว์มักมาปรึกษาสัตวแพทย์ถึงการเลือกชนิดของอาหารที่ดีที่สุดให้แก่สัตว์เลี้ยงและบทความสั้นๆนี้จะสรุปจุดเด่นบางประการของอาหารเปียกเพื่อนำไปพิจารณาใช้
อาหารเปียกจะมีความชื้นอยู่ร้อยละ 60-80 ซึ่งตรงข้ามกับอาหารกึ่งเปียกที่มีความชื้นอยู่ร้อยละ 25-35 และอาหารเม็ดที่มีเพียงร้อยละ 10 3 อาหารเปียกจะมีการเติมส่วนผสมที่ทำให้เกิดเจลเช่นไฟเบอร์ที่ละลายน้ำได้ 4 แป้ง กลูเตนข้าวสาลี และพลาสมาจากสัตว์ที่ผ่านกระบวนการ spray-dried 5 ส่วนผสมที่ทำให้เกิดเจลไม่ส่งผลต่อการย่อยของสารอาหารหลัก (macronutrient) แต่สารอาหารรอง (micronutrient) 5 6อย่างซีลีเนียม 7 โซเดียมและโพแทสเซียม 8 จะมีชีวปริมาณสารออกฤทธิ์ (bioavailability) ที่ต่ำกว่าเมื่ออยู่ในอาหารเปียกซึ่งอาจเป็นผลมาจากส่วนผสมที่ทำให้เกิดเจล 5 นอกจากนี้ไธอามีน (thiamine) ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญที่สลายตัวเมื่อโดนความร้อน พบว่ามีปริมาณต่ำในอาหารเปียกชนิดที่มีลักษณะคล้ายตับบดและอาหารเปียกที่ผลิตโดยบริษัทขนาดเล็กบางแห่ง 9 อาหารเปียกที่ดีควรมีปริมาณทอรีน (taurine) สูงกว่าในอาหารแห้งเพื่อสร้างความสมดุลกับปริมาณ bile acidที่หลั่งออกมามากขึ้นและทำให้เกิดการสลายทอรีนโดนจุลชีพมากกว่าเมื่อเทียบกับอาหารแห้ง 10
มีรายงานว่าอาหารเปียกมีความน่ากินสูงกว่าอาหารแห้ง 11 12 ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอาหารเปียกมีปริมาณโปรตีนสูงกว่าอาหารแห้ง 13 จึงมีความน่ากินมากขึ้นโดยเฉพาะกับแมว อาหารเปียกมีปริมาณไขมันสูงกว่าอาหารแห้งซึ่งเพิ่มความน่ากินโดยรวม 14 (รูปที่1) นอกจากนี้ยังมีกลิ่นที่หอมกว่าและมีเนื้อสัมผัสที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นแบบตับบดหรือแบบชิ้นเนื้อในน้ำเกรวี่ 15 ถึงแม้ว่าสัตว์เลี้ยงหลายตัวจะชอบกินอาหารเปียกแต่ก็มีบางตัวที่ชอบอาหารแห้งมากกว่าอาหารเปียกอย่างเด่นชัด 16
ปริมาณความชื้นในอาหารเปียกที่สูงอาจลดปริมาณแคลอรีโดยรวมที่สัตว์กินต่อมื้อ 17 และอาจช่วยในการคุมน้ำหนักในแมวได้ 18 แต่อาหารแห้งที่มีส่วนผสมของเส้นใยที่ไม่ละลายน้ำสามารถทำให้สัตว์มีน้ำหนักลดลงได้ดีเช่นกัน ค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าและลักษณะของอาหารเปียกที่เสียง่ายกว่าอาหารแห้งอาจช่วยลดโอกาสในการให้อาหารมากเกินไป อย่างไรก็ตามอาหารเปียกมีปริมาณไขมันสูงกว่าอาหารแห้งทำให้มีแคลอรีเป็นสัดส่วนสูงกว่าเมื่อเทียบกับมวลอาหารแห้ง
อาหารเปียกจะเพิ่มปริมาณน้ำโดยรวมที่สัตว์กินในแต่ละวัน 19 20 ถึงแม้จะทำให้สัตว์กินน้ำลดลง 21 ข้อบ่งชี้ที่เด่นชัดที่สุดในการให้อาหารเปียกคือใช้กับสัตว์ที่มีปัญหาโรคระบบปัสสาวะที่ต้องการเจือจางปัสสาวะ (รูปที่2) การให้อาหารเปียกยังสามารถทำได้ในแมวที่เป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบแบบไม่ทราบสาเหตุ (Feline Idiopathic Cystitis; FIC) 22 ค่าความถ่วงจำเพาะของปัสสาวะ (Urine Specific Gravity; USG) และค่าความอิ่มตัวยิ่งยวดสัมพัทธ์ (Relative Supersaturation; RSS) ของแคลเซียมออกซาเลตในแมว 19 และสุนัขสายพันธุ์ที่มีความเสี่ยง 20 ลดลงเมื่อให้อาหารที่มีความชื้นร้อยละ 73 เทียบกับอาหารที่มีความชื้นร้อยละ 7 การให้อาหารแห้งในสุนัขเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงจากอาหารที่ทำให้เกิดนิ่วชนิดแคลเซียมออกซาเลต 23
อาหารเปียกมีปริมาณคาร์โบไฮเดรตที่ย่อยได้ต่ำกว่าและอาจเป็นตัวเลือกที่ดีในสัตว์ที่มีปัญหาเบาหวาน นอกจากนี้การที่อาหารเปียกสามารถเน่าเสียได้ง่ายกว่าจะส่งเสริมการให้อาหารเป็นมื้อเมื่อเทียบกับการวางอาหารแห้งทิ้งไว้เป็นปริมาณมาก ซึ่งเหมาะสมกับสัตว์ป่วยด้วยโรคเบาหวาน อาหารเปียกยังมีประโยชน์ในสัตว์ที่แสดงอาการเจ็บปากเพราะมีเนื้อสัมผัสที่นุ่มแต่ไม่ได้ช่วยในการป้องกันโรคเหงือกเพราะขาดการขัดสีบริเวณเหงือกซึ่งเป็นคุณสมบัติที่พบได้ในอาหารแห้งสำหรับช่องปากและการแปรงฟัน
ปัจจัยในการเลือกอาหารให้เหมาะสมกับสัตว์เลี้ยงมีหลายประการ ในบางสถานการณ์อาหารเปียกอาจเป็นประโยชน์มากกว่า อาหารเปียกมีราคาสูงกว่าเทียบจากราคาต่อปริมาณพลังงานที่ได้และเน่าเสียได้ง่ายกว่าอาหารแห้ง ดังนั้นสุขภาพของสัตว์ ประวัติการกินอาหารรวมไปถึงกำลังทรัพย์ของเจ้าของเป็นสิ่งที่ต้องนำมาพิจารณาในการเลือกชนิดของอาหาร สิ่งสำคัญที่สุดไม่ว่าจะเลือกอาหารชนิดใดคือการเน้นย้ำกับเจ้าของว่าอาหารนั้นควรมาจากผู้ผลิตที่น่าเชื่อถือที่ใช้ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการสัตว์ วิทยาศาสตร์ด้านอาหาร และวิศวกรรมเพื่อเป็นการรับรองว่าอาหารนั้นจะมีคุณค่าทางอาหารครบถ้วนและปลอดภัย
Jess L. P. Benson
Dr. Benson received her DVM from Virginia Maryl and College of Veterinary Medicine (VMCVM) in 2018. She has a particular interest in nutrition อ่านเพิ่มเติม
Megan L. Shepherd
Dr. Shepherd received her DVM from VMCVM in2006 and spent two years in general equine practice before returning to VMCVM อ่านเพิ่มเติม
เมื่อสัตวแพทย์พบสุนัขที่แสดงอาการป่วยอย่างรุนแรง อาจมองข้าม...
การกินอาหารมีความสำคัญต่อสิ่งมีชีวิตในการอยู่รอด แต่สำหรับมนุษย์...